วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

5 วิธีใส่เสื้อผ้าให้ดูผอมเพรียวทันใจ

1. ใส่เสื้อผ้าสีเข้มเข้าไว้ เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าชุดสีดำนั้นช่วยพรางรูปร่างได้เป็นอย่างดี แต่ก่อนที่คุณจะวิ่งไปซื้อมาใส่เต็มตู้ สำรวจนิดนึง ว่าซีซั่นนี้เสื้อผ้าสีเข้มสีใดที่มาแรง อาจเป็นสีน้ำเงินเข้มหรือเทาเข้มก็ได้

2. รองเท้าส้นสูงมีส่วนช่วยมาก ข้อเท็จจริงที่ว่ารองเท้าส้นสูงสามารถใส่ได้กับเสื้อผ้าทุกชุดนั้น คุณไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ข้อดีอีกข้อหนึ่งก็คือส้นสูง ยังทำให้ขาของคุณดูเรียวขึ้นและช่วยยกสะโพกขึ้นได้เล็กน้อย ไม่เชื่อลองดูสิ

3. คาดเข็มขัดเส้นโต ใครจะเชื่อว่าความมหัศจรรย์ของเข็มขัดเส้นใหญ่จะมีจริง เพราะแค่ขนาดต่างกัน มันก็ทำให้เรือนร่างของคุณเปลี่ยนได้เช่นกัน

4. อ้าแขนต้อนรับผิวสีแทน มันเยี่ยมมากถ้าคุณอยากจะพรางส่วนเกินชิ้นยักษ์ของคุณ หาครีมทาผิวสีแทนมาทาส่วนเกินสักนิด อย่าทาทั้งตัว แต่ให้นึกถึงการทำไฮไลต์เข้าไว้แล้วเรือนร่างของคุณจะดูมีมิติขึ้น

5. หาจุดเด่นของตัวเองและเผยให้ดูโดดเด้งที่สุด โอกาสดีเป็นของคุณแล้ว ถ้าคุณเป็นคนมีหน้าอกก็ให้ใส่ชุดเข้ารูปเล็กน้อย หรือถ้าเป็นสาวขาเรียวเลือกใส่สกินนี่จะดีที่สุด เพราะเมื่อจุดเด่นของคุณเด่นชัด แน่นอนจุดด้อย จะจางหายไปทันที แต่ก็อย่าให้มากจนดูไม่งามล่ะ

from kapook.com

วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ซูชิ ทานอย่างไรถึงจะดี

ถ้าคุณรู้จักทาน – ซูซิจะเป็นแหล่งสารอาหารชั้นดีให้ร่างกาย

ถ้าคุณทานไม่เลือก – เจ้าชิ้นพอดีคำนี้สามารถขยายรอบเอวคุณให้กว้างขึ้นได้

Men’s Health แนะนำให้คุณลองใช้เทคนิคต่อไปนี้ เพื่อจะได้ทานซูชิอย่างสุขภาพดีได้ต่อไป

1.ลอง เติมเมล็ดงาลงบนหน้าซูซิ คุณจะได้รับแมกนีเซียมซึ่งเป็นสารช่วยกระตุ้นสมอง หรือจะเพิ่มไข่ปลาคาเวียร์ลงไปด้วย เพื่อโอเมกา -3 อันเต็มเปี่ยมนั่นเอง

2.ถ้า เป็นร้านซูชิชั้นดี จะเลือกใช้เฉพาะปลาสด ๆ ในการทำม้วนโรลนะครับ ลองถามหาปลาเหล่านี้ดู "อลาสกาแซลมอน" หรือ "ปลาเทราต์เรนโบว์" ซึ่งทั้งสองชนิดต่างอุดมด้วยโปรตีนและโอเมกา -3

3.บอก เชฟว่า ขอซูชิเนื้อปูจริง ๆ ไม่ใช่เนื้อปลาบดแช่แข็ง หรือเนื้อปูเลียนแบบ (ที่มีโปรตีนไม่ถึงครึ่ง แถมยังไม่ค่อยมีโอเมกา -3 อีกต่างหาก) แน่นอนว่าย่อมแพงกว่า แต่คุณประโยชน์เยอะกว่ากันมากเลยนะครับ

ลองใช้ข้อมูลเหล่านี้ช่วยในการตัดสินใจว่า คราวหน้าจะเลือกสั่งอะไรดี ซึ่งจัดลำดับจากดีที่สุดไปหาแย่ที่สุด โดยวัดจากแคลอรี แต่หลักง่าย ๆ นะครับ พยายามเลี่ยงของทอด (เช่น เทมปุระ เป็นต้น)

from kapook.com

วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ดูแลตัวเองให้ถูกวิธี ให้ดูที "กรุ๊ปเลือด"

สาวๆ ที่มีกรุ๊ปเลือด A :: จะ มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเครียดเนื่องจากร่างกายจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล หรือฮอร์โมนเครียดมาก ดังนั้นควรจะออกกำลังกายด้วยการจดจ่อต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น โยคะ ไทชิ หรือนั่งสมาธิ เพื่อลดความเครียด หากออกกำลังกายก็อย่าหักโหม

นอกจากนี้สาวๆ กรุ๊ปเลือด A ยังไม่ควรบริโภคเนื้อสัตว์มากเกินไป เพราะผู้ที่มีหมู่เลือดนี้จะไม่ค่อยมีเอนไซม์และกรดที่ย่อยโปรตีนจากเนื้อ สัตว์ ควรงดการดื่มนมสดและผลิตภัณฑ์จากนม เพราะจะทำให้เกิดท้องอืด ท้องเฟ้อ ทางที่ดีควรรับประทานผัก อย่างฟักทอง แคร์รอต ผักโขม บร็อกโคลี่ และพืชตระกูลถั่ว โดยเฉพาะถั่วเหลือง ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่มีโปรตีนสูงและช่วยป้องกันโรคมะเร็ง และควรดื่มชาเขียวเป็นประจำเพื่อช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ควรจำกัดน้ำตาล คาเฟอีน และแอลกอฮอล์ เพราะสิ่งเหล่านี้จะไปเพิ่มความเครียด และทำให้กระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกายทำงานช้าลง



สาวๆ ที่มีกรุ๊ปเลือด B ::เมื่อ ร่างกายไม่สมดุลระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลจะเพิ่มสูงขึ้นทำให้มีโอกาสที่จะติด เชื้อ เกิดอาการเหนื่อยล้า จิตใจมัวหมอง สาวๆ ควรสร้างความสมดุลด้วยการออกกำลังกายในรูปแบบที่ท้าทายแต่ต้องใช้สมาธิควบ คู่ไปดวย เช่น เทนนิส ศิลปะการต่อสู้ ปั่นจักรยาน เดินทางไกล กอล์ฟ หรือไทชิเป็นการลดความเครียด ลดความดัน ทำให้ผ่อนคลาย สร้างสมดุลให้กับร่างกาย

สาวๆ เลือดกรุ๊ปนี้เหมาะกับการดื่มนมหรือผลิตภัณฑ์จากนม และเนื้อสัตว์ แม้คนหมู่เลือดนี้จะสามารถเผาผลาญโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้ดีก็ตามแต่ก็ไม่ควร กินเนื้อสัตว์ที่ติดมัน ไม่ควรกินคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป และหลีกเลี่ยงเนื้อไก่
เด็กดีดอทคอม :: ดูแลตัวเองให้ถูกวิธีให้ดูที "กรุ๊ปเลือด"; tags: สุขภาพ , อาหาร , ผู้หญิงดูแลตัวเองให้ถูกวิธีให้ดูที "กรุ๊ปเลือด"

เด็กดีดอทคอม :: ดูแลตัวเองให้ถูกวิธีให้ดูที "กรุ๊ปเลือด"; tags: สุขภาพ , อาหาร , ผู้หญิง ดูแลตัวเองให้ถูกวิธีให้ ดูที "กรุ๊ปเลือด"



สาวๆ ที่มีกรุ๊ปเลือด AB :: เป็น สาวๆ ที่รักความเคลื่อนไหว ดังนั้นควรออกกำลังกายในรูปแบบที่ใช้แรงมากและต้องสร้างสมาธิได้ด้วย อย่างเช่นโยคะ หรือแอโรบิก คนเลือดกรุ๊ปนี้มีกรดไฮโดรคลอริกน้อยทำให้ย่อยอาหารได้ยาก จึงต้องจำกัดปริมาณเนื้อสัตว์ไม่ควรรับประทานเนื้อไก่ ควรหันมาบริโภคถั่วเหลือง ปลา ไข่ไก่ และผักแทน ไม่ควรดื่มคาเฟอีนและแอลกอฮอล์มากเกินไป และไม่ควรอดอาหารเพราะจะทำให้เกิดความเครียด

สาวที่มีเลือดกรุ๊ป O :: ควร จะออกกำลังกายโดยสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเต้นแอโรบิก วิ่ง หรือปั่นจักรยานจะช่วยปรับสภาวะสมดุลของอารมณ์ได้ คนเลือดกรุ๊ปนี้โปรตีนเป็นสิ่งสำคัญ แต่ควรจำกัดการบริโภคถั่วและหมู ส่วนนมและผลิตภัณฑ์จากนมให้บริโภคแต่น้อย เพราะร่างกายย่อยได้ยาก ควรจะหันมารับประทานผักผลไม้ให้มาก

from dekd.com

วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

วิธีแต่งหน้า เปลี่ยนเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย

Eyes

ไล้อายแชโดว์สีส้มอมทองทาให้ทั้งเปลือกตา สร้างมิติให้กับดวงตาโดยใช้สีน้ำตาลทองบริเวณขอบตาขึ้นไปจนถึงรอบพับเปลือก ตา และทาจากหางตาบริเวณขอบตาล่างมายังกึ่งกลางตา ใช้ผู้กันแต้มสีส้มอมทองแล้วไล้ที่หัวตาเล็กน้อย จากนั้นใช้ดินสอเขียนขอบตาสีน้ำตาลเข้ม เขียนให้ชิดขอบตาบนค่ะ

Cheek

ใช้บลัชออนสีส้มหรือสีพีช ปัดบริเวณโหนกแก้ม โดยขณะที่ปัดให้ยิ้มเล็กแล้ว จะเห็นโหนกแก้มได้ชัดขึ้น

Lip

ทาลิปสติกสีม่วงอมแดง แล้วตามด้วยลิปกลอสประกายมุก เพื่อเพิ่มความเปล่งประกายบนริมฝีปากค่ะ

และแล้วความสวยก็มาเยือนคุณได้อย่างง่ายดายทีเดียวค่ะ แหม ! วิธีดี ๆ แสนง่ายแบบนี้เห็นทีสาว ๆ ต้องกระซิบต่อ ๆ กันไปแล้วล่ะจ๊ะ...


from kapook.com

วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ต้นขจร...อาหารบำรุงฮอร์โมนหญิง

ห้อมหอมกลิ่นดอกขจรลอยฟุ้งมาแต่ไกล นอกจากใครหลายคนจะชอบปลูกต้นขจรไว้ประดับบ้านแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่า ต้นขจร หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่าต้นสลิดนั้นยังสามารถนำส่วนต่าง ๆ มาประกอบอาหารและเป็นยาสมุนไพรรักษาโรคได้อีก ว่าแล้วอย่ารอช้า เรามาทำความรู้จักกับต้นขจรกันค่ะ

คุณค่าทางอาหาร

ทั้งยอดอ่อน ผลอ่อน และดอกของขจรสามารถนำมาทำอาหารได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะใช้เป็นผักต้มหรือผักลวกจิ้มน้ำพริก หรือทำเป็นอาหารอื่น ๆ เช่น แกงส้มดอกขจร ยำดอกขจร แกงจืดดอกขจร ข้าวต้มดอกขจร เป็นต้น และส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุดคือส่วนยอดอ่อน ทั้งนี้ดอกขจรมีคุณค่าวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม และฟอสฟอรัสสูง

สรรพคุณทางยา

ดอกขจร มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน รักษาหวัดที่เกิดจากการตากลมหรืออากาศเย็น ช่วยบำรุงตับ บำรุงสายตา บำรุงเลือด บำรุงฮอร์โมนของสตรี ช่วยขับเสมหะ และแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ

ราก เป็นเครื่องยาสมุนไพรใช้หยอดรักษาตา อีกทั้งมีสรรพคุณทำให้อาเจียน ถอนพิษเบื่อเมา ดับพิษได้อีก

from kapook.com

วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

สมุนไพรในครัวแก้ผมแตกปลาย

ณเคยมีผมแตกปลายไหม... สำหรับคนรักเส้นผมแล้ว เรื่องนี้อาจเป็นปัญหาทุกข์ใจได้ บางคนเสาะหาสารพัดวิธี ทั้งเล็ม ตัด หรืออบไอน้ำ ด้วยครีมบำรุงที่มีราคาแพงซึ่งช่วยได้บ้าง แต่ก็อาจกลับมาแตกปลายได้อีก

เกร็ดสุขภาพมีวิธีธรรมชาติที่ถูกแสนถูกและได้ผลดี แถมไม่เป็นอันตรายต่อเส้นผมอันบอบบางของคุณ ว่าแล้วเข้าครัวหาสมุนไพรใกล้ ๆ ตัวกันค่ะ

ชะอม ต้มใบชะอมประมาณ 1 กำมือกับน้ำสะอาด 3 ถ้วยจนเดือด กรองเอาแต่น้ำสีเขียวใส ๆ พักให้เย็น หลังจากสระผมสะอาดแล้ว นำผ้าขนหนูชุบน้ำชะอมพอหมาด ๆ เช็ดถูให้ทั่วศรีษะ จะช่วยคืนสภาพเส้นผมให้ดีขึ้น และไม่ทำให้ผมแตกปลายอีกด้วย

ตะไคร้ ตะไคร้ที่เราใส่ในต้มยำนี่แหละค่ะใช้แก้ปัญหาผมแตกปลายได้ผลดีทีเดียว โขลกตะไคร้ 2-3 ต้นให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำ หลังจากสระผมสะอาดดีแล้ว นำน้ำตะไคร้มานวดให้ทั่วศรีษะทิ้งไว้สัก 10 นาที จึงล้างออก ทำเป็นประจำทุกครั้งหลังสระผม

from kapook.com

วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เรื่องความสูงของส้นรองเท้า

เรื่องความสูง ของส้นรองเท้านั้น มีหลายคนเขียนไว้แตกต่างกัน บางท่านก็แบ่งเพศว่า ชายสูงไม่เกิน 3.5 ซม. หญิงสูงไม่เกิน 4.5 ซม. จึงได้มีผู้ทำการ ศึกษาวิจัย โดยทำการทดลองให้ใส่รองเท้าส้นสูงในขนาดต่าง ๆ กัน แล้วให้เดินสายพาน ในความเร็วประมาณ 4 กม.ต่อชั่วโมง ติดอุปกรณ์ถ่ายภาพความเร็วสูงและศึกษาการทำงานของกล้ามเนื้อ และการขยับของข้อต่าง ๆ พบว่า ปัญหาจะ เกิดขึ้นเมื่อรองเท้าส้นสูงเกินกว่า 5 ซม. หรือ 2 นิ้ว อันนี้เป็นการทดลองในผู้หญิงที่ใส่ส้นสูงประจำครึ่งหนึ่ง และใส่ส้นเตี้ยประจำครึ่งหนึ่ง

จากการสำรวจด้วยแบบสอบถามในต่างประเทศ พบว่ามีสุภาพสตรีที่มีปัญหาเรื่องปวดเท้า ประมาณ 80% และในจำนวนนี้ มีสาเหตุเกี่ยวเนื่องกับรองเท้าส้นสูงถึง 75% จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่ามีผู้มาพบแพทย์ด้วยปัญหาปวดเท้า แต่ในบางรายก็อาจจะเป็นเนื่องจากรูปร่างของเท้าที่ผิดปกติ

สำหรับเรื่องรองเท้าส้นสูงที่เกิน 2 นิ้ว นะครับ จะส่งผลให้เกิดปัญหา ตั้งแต่เล็บเท้าขบ หูดหรือตาปลาที่ฝ่าเท้า เส้นประสาทเท้าอักเสบ เอ็นข้อเท้าอักเสบ กล้ามเนื้อน่อง และเอ็นร้อยหวายหดรั้ง การบาดเจ็บจากเท้าพลิก นอกจากนี้ยังมีอาการเจ็บเข่า เนื่องจากการเกร็งของเข่าเพื่อการทรงตัว และที่สำคัญคือ ยังส่งผลถึงกระดูกสันหลังด้วยครับ การทานอาหารให้ครบหมู่ มีสารอาหารและแคลเซียมเพียงพอ และหมั่นออกกำลังกาย จะทำให้กระดูกแข็งแรง ทั้งนี้ต้องควบคุมน้ำหนักตัวด้วย

วัยไหนก็ไม่เหมาะที่จะใส่ โดยเฉพาะเด็ก และสตรีมีครรภ์ ใส่ส้นสูงให้ปลอดภัย ใส่ไม่เกิน 2 นิ้ว เลือกชนิดที่มีสายรัดบนหลังเท้า และพื้นรองเท้ากว้างรับกับแผ่นเท้าทั้งหมด วัสดุที่รองเท้าต้องนุ่ม ช่วงเวลาที่ใส่ให้สั้นที่สุด และต้องออกกำลังกายยืดเส้นเอ็นร้อยหวาย และกล้ามเนื้อน่อง

กรณีเกิดการบาดเจ็บของข้อเท้า ให้ใช้ความเย็น ซึ่งอาจจะเป็นถุงน้ำแข็ง ประคบไว้ประมาณ 20-30 นาที ขณะเดียวกันให้ยกขาสูง และลดการใช้งาน สามารถประคบได้บ่อย ๆ 4-5 ครั้งต่อวัน หรือทุก 2 ชั่วโมง ในวันแรกที่ได้รับบาดเจ็บ ควรประคบต่ออีก 2-3 วัน แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นความร้อน แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้น หรือกลับแย่ลง ให้ไปปรึกษาแพทย์ครับ ข้อสำคัญ คือ ห้ามนวด หรือห้ามดัดบิดข้อเท้า

from kapook.com

วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

วิธีดูแลรอบดวงตา เมื่อใต้ตาหมองคล้ำ

นำช้อนกาแฟที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวัน นำไปจุ่มในถ้วยกาแฟ และนำไปแช่ในช่องฟิตของตู้เย็น จากนั้นทิ้งช้อนไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วจึงนำออกมา ครอบไว้ที่ดวงตาทั้ง 2 ข้างจนหมดความเย็น ทำทุกวันหลังล้างหน้าเสร็จ แล้วดวงตาที่หมองคล้ำของคุณก็จะสดใสไร้ความหมองคล้ำ

วิธีนวดใต้บริหารรอบดวงตา

ใช้ปลายนิ้วกลางและนาง ยืดคิ้วออกด้านข้าง 3 ครั้ง ใช้นิ้วกลางของทั้งสองข้างหมุนวนรอบดวงตาพร้อม ๆ กัน โดยวนตามเข็มนาฬิกา และทุกครั้งให้หยุดกดบริเวณหัวคิ้ว ทำแบบนี้ซ้ำ ๆ จำนวน 4-6 รอบ ใช้นิ้วกลางกดจุดไล่ตั้งแต่หัวคิ้วถึงขมับ จำนวน 3 รอบ กดจุดไล่ลงมาที่บริเวณใต้ตา ไล่ตั้งแต่หัวตาถึงหางตา 3 รอบ ใช้นิ้วหลางนวดที่บริเวณขมับ หมุนเป็นรูปเลขแปด ทำซ้ำ อีก 6 รอบ จากนั้นทำตามขั้นตอนข้างต้น ทั้งหมด อีก 3 รอบ จากนั้นนำมือทั้งสองปิดที่ดวงตา ลากน้ำหนักที่ปลายนิ้วออกไปที่ด้านข้างกรอบหน้า แล้วจึงค่อย ๆ ยกฝ่ามือออกจากหน้า

from kapook.com

วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เลือกทรงผมให้เข้ากับรูปร่าง

เลือกทรงผมใช่ว่าจะดูที่โครงหน้าอย่างเดียวนะคะ ต้องดูที่รูปร่างของเราด้วยว่าเหมาะกับทรงผมทรงไหน วันนี้เราเอาเคล็ดลับการเลือกทรงผมให้เข้ากับรูปร่างมาฝากสาว ๆ กันค่ะ

สาวผอมสูง

ทรงผมที่เหมาะคือผมยาวค่ะ หรือหากชอบผมสั้นก็ได้เช่นกัน แต่ความยาวควรอยู่ระดับคาง หากสั้นมากไปกว่านี้จะทำให้คุณดูเป็นคนที่หัวเล็กคอยาว ผมยาวเวิร์คกว่าค่ะ อาจจะดัดเล็กน้อยก็ดูสวยค่ะ

สาวร่างเล็ก

ควรไว้ผมยาวพอประมาณ ไม่ควรยาวมากเกินไปค่ะ หากอยากไว้ผมสั้นก็ควรจะเป็นผมสั้นอย่างผมบ๊อบ แต่ควรเป็นบ๊อบแบบเก๋ ๆ เพราะไม่อย่างนั้น คุณอาจจะกลายเป็นนักเรียนประถมได้ค่ะ

สาวหน้าอกใหญ่

ผมยาวดัดเล็กน้อยปลายสยาย เหมาะสมที่สุดค่ะ เพราะจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากหน้าอกไปได้มากเลยค่ะ เพราะหาคุณไว้ผมยาวตรงจะดูธรรมดา คนก็จะสนใจหน้าอกของคุณมากกว่า เพราะฉะนั้น ผมยาวดัดดีที่สุดค่ะ

from kapook.com

วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

แก้ปัญหาผมบางด้วยอาหาร

เมื่อวัยร่วงโรย ผมก็ร่วงตาม ที่เคยดกดำ บ้างก็เปลี่ยนเป็นสีขาว บ้างก็อำลาหนังศีรษะตลอดกาล เอาแต่โอดโอยอาวรณ์ ผมก็ไม่กลับมา ทิ้งให้หนังศีรษะต้องโดดเดี่ยวเอกา แต่มีหรือที่คนรักสุขภาพอย่างเราจะนิ่งดูดาย มาหาของกินเรียกผมคืนกันดีกว่าค่ะ ของกินที่ว่าได้แก่


กินเมล็ดฟักทอง ถั่วต่าง ๆ ที่เป็นแหล่งรวมของสังกะสี
แตงกวา และ โอ๊ต เพื่อให้ได้รับซิลิกา อย่างเพียงพอ
สาหร่ายทะเลแห้ง เต้าหู้ พาสลี่ งา และเมล็ดทานตะวันเพื่อให้ได้ธาตุเหล็ก
ปลา แหล่งรวมโปรตีน และกรดโอเมก้า 3
ข้าวกล้องและธัญพืช เสริมวิตามิน บี
ผักใบเขียวเพื่อให้ได้โฟลิกแอซิด

from kapook.com

วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ทาครีมแล้ว นวดหน้าด้วยสิ ผิวดีขึ้นเห็นๆ

ในเมื่อเราทาครีมบำรุงผิวหน้ากันอยู่ทุกวัน จะดีสักแค่ไหนนะ ถ้าเป็นการทาไปนวดผิวไป ครีมจะได้ซึมลงสู่ผิวดีขึ้น และยังช่วยกระตุ้นต่อมน้ำเหลือง ออกกำลังผิวให้แข็งแรงขึ้นไปพร้อมๆ กันด้วย

ก่อนอื่น เราเคยสงสัยไหมว่า การทาครีมยังไงกันนะที่จะทำให้ครีมลงสู่ผิวได้ดี สกินแคร์บางยี่ห้อบอกเราว่า ทาแบบซับๆ กดเบาๆ ก็พอ บ้างก็บอกว่าทาวนเป็นวงกลมไล่ขึ้นไป นานาไอเดียที่ไม่รู้จะเชื่อใครนี้ คุณหมอแนวทางธรรมชาติอย่างคุณหมอกอบกาญจน์ ไพบูลศิลป แห่งศูนย์บัลวี และนักเขียนเว็บไซต์ sabai-arom.com ในคอลัมน์ Green Beauty Guide แนะนำไว้น่าสนใจทีเดียวว่า

"ก่อนลงครีม อย่างแรกเลยต้องดูว่าใบหน้าเราสะอาดหรือเปล่า ต้องไม่มีเครื่องสำอางตกค้าง ไม่เช่นนั้นแล้ว เครื่องสำอางที่มาจากสารเคมีอาจจะซึมลงไป ซึ่งอาจทำให้ผิวเราระคายเคือง หรือทำปฏิกิริยากับครีมนั้นได้

จะว่าไปแล้ว เทคนิคการทาครีม ไม่ว่าการตบหรือการกดซับนั้นไม่ได้ต่างกันมาก เป็นการสร้างซิกเนเจอร์ของแบรนด์มากกว่า สำคัญที่ว่า เราทาได้ทั่วและลงน้ำหนักมือพอดีหรือเปล่า ทาให้ทั่วก็คือแต้มครีมสักห้าจุดบนใบหน้า คือหน้าผาก แก้มทั้งสองข้าง จมูกและคาง แล้วเกลี่ยให้ทั่ว จากนั้นนวดหน้าเบาๆ ซึ่งยังเป็นการไล่น้ำเหลือง ที่ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองดีขึ้นด้วย ลองสังเกตดูสิคะว่าบางวันเราตื่นมาหน้าแล้วหน้าบวมๆ นั่นก็เพราะการไหลเวียนน้ำเหลืองไม่ดี ซึ่งการนวดกระตุ้นนี่เองที่ช่วยได้

ส่วนที่เขาบอกกันว่าให้ใช้นิ้วนางหรือนิ้วกลาง อาจเป็นเพราะสองนิ้วนี้เราใช้กันไม่ถนัด จึงทำให้ลงน้ำหนักได้เบามือ แต่จริงๆ แล้วเราใช้นิ้วใดก็ได้ค่ะ เพียงแค่ลงน้ำหนักเบาๆ คล้ายๆ กับตอนที่เราเอาสำลีไปเช็ดหน้า แต่ไม่ต้องกด ไม่ต้องออกแรงมากนั่นเอง"

แล้วถ้าได้ทาครีมไป นวดหน้าไปด้วยล่ะ
เป็นเรื่องดีแน่ เพราะคุณหมอก็เห็นด้วยว่าการนวดนั้นดีกับเราจริงๆ อย่างคนสมัยก่อนก็เอาเทคนิคการนวดนี่ละ มาเป็นผู้ช่วยในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ระบายของเสีย และยังกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองให้ทำงานดีไปในตัว ผิวหน้าจึงแข็งแรง สดใส เปล่งปลั่งขึ้นได้หากเรานวดบ่อยๆ ว่าแล้วทาครีมบำรุงผิวคราวหน้า ลองพก 8 ขั้นของการนวดหน้าแบบนี้ไปใช้ดู

Step 1: ล้างมือให้สะอาด งานนี้นิ้วมือเท่านั้นที่จะนวดผิวหน้า
Step 2: ทาครีมที่เหมาะกับสภาพผิวในช่วงเวลานั้นๆ เช่น หากเวลานั้นหน้าแห้งมาก ก็ควรเป็นครีมเนื้อเข้มข้น เป็นต้น จากนั้น แต้มครีมลงบนใบหน้า 5 จุด คือ หน้าผาก แก้มทั้งสองข้าง จมูก และคาง
Step 3: ทาครีมที่แต้มไว้ให้ทั่วใบหน้า จากนั้นเริ่มนวดโดยใช้นิ้วชี้แต่ละข้างกดไปที่หัวคิ้วทั้งสอง แล้วค่อยๆ ไล่วนตรงขึ้นไปถึงไรผม แล้วไล่กดตามแนวไรผมลงมาในแต่ละข้างจนถึงขมับ ทำอย่างนี้ซ้ำอีก 3 - 4 ครั้ง
Step 4: ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางแต่ละข้างนวดขมับซ้ายขวา วนเป็นวงกลม จากนั้นนวดวนไล่ตามไรผมผ่านกรามลงมาจนถึงคาง
Step 5: ใช้นิวชี้ นิ้วกลางและนิ้วนาง แตะตรงปลายจมูกแต่ละข้าง จากนั้นลูบออกไปจนถึงขมับ ทำซ้ำอีก 2 ครั้งและไล่ระดับต่ำลงเรื่อยๆ จนถึงระดับคาง
Step 6: นวดวนรอบดวงตากันบ้าง เริ่มจากใช้นิ้วนางแตะที่ขมับ จากนั้นลากลงเบาๆ จนโค้งไปทางหัวตา จนนิ้วไปหยุดที่หัวคิ้ว ทำซ้ำอย่างนี้อีก 4 -5 ครั้ง
Step 7: นวดใบหูสักหน่อย ด้วยการใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้นวดติ่งหูเบาๆ จากนั้นค่อยๆ บีบไล่ขึ้นไปเบา ๆ จนถึงใบหูด้านบน แล้วไล่ลงมาอีกครั้ง ทำซ้ำสัก 4 - 5 รอบ
Step 8: ถูฝ่ามือเบาๆ จนรู้สึกอุ่น จากนั้นนำฝ่ามือมาอังรอบดวงตาให้รู้สึกผ่อนคลายสักครู่ เท่านี้ก็รู้สึกสบายหน้าและสบายผิวไม่น้อยแล้ว

from sanook.com

วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

กินยาระบายทุกวันเป็นอันตรายหรือเปล่า

โครงการ “ล้านคำถามเรื่องยา ปรึกษาเภสัชกร” โดยความร่วมมือของสภาเภสัชกรรม กับ อย.

ยาระบายในที่นี้คงหมายถึง “ยาเม็ดเคลือบสีเหลือง” และยาอื่นที่ออกฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ซึ่งเป็นยาที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย และมีการใช้กันเป็นประจำเมื่อต้องการถ่ายอุจจาระ

เมื่อมีการใช้ยานี้เป็นประจำ ร่างกายจะมีการปรับตัวด้วยการดื้อยาหรือต้องเพิ่มขนาดยามากขึ้นๆ เรื่อยๆ จึงจะได้ผล เช่น ในกรณีที่เริ่มต้นใช้ยาระบายชนิดนี้โดยทั่วไปจะใช้ครั้งละ 1-2 เม็ด ก่อนนอน แล้วยาจะเริ่มออกฤทธิ์ช่วยให้ถ่ายอุจจาระในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น แต่เมื่อมีการใช้เป็นประจำ ติดต่อกันนานๆ จากครั้งละ 2 เม็ด ก็ต้องเพิ่มเป็น 3, 4, 5, ……และเพิ่มมากขึ้นๆ ตามความถี่และระยะเวลาที่ใช้ยา จากประสบการณ์ของผมเคยพบรายหนึ่งที่ใช้ยาระบายครั้งละ 20 เม็ดเพื่อใช้ระบายหรือถ่ายอุจจาระ 1 ครั้ง เพราะถ้าไม่ใช้ยา ร่างกายจะไม่ถ่ายอุจจาระด้วยตนเองตามปกติ จะต้องใช้ยาระบายกระตุ้นทุกครั้งจึงจะถ่ายอุจจาระได้

ปัญหาหลักๆ ของผู้ใช้ยากลุ่มนี้ คือ มักมีความเชื่อว่า

“ควรถ่ายอุจจาระทุกวันเป็นประจำ” เพราะว่าถ้าไม่ได้ถ่ายทุกวันตอนเช้า จะรู้สึกผิดปกติ หรือในบางคนบ่นว่ารู้สึกท้องอืด ท้องเฟ้อ และผายลมบ่อย ด้วยเหตุนี้จึงมีการกินยาระบายอย่างประจำทุกวันก่อนนอน

แต่ในทางการแพทย์พบว่า

ความถี่บ่อยของการถ่ายอุจจาระขึ้นอยู่กับลักษณะจำเพาะของแต่ละบุคคล ในบางคนอาจถ่ายอุจจาระทุกวัน แต่ในบางคนวันเว้นวัน หรือวันเว้นสองวัน ขึ้นอยู่กับลักษณะของแต่ละคน ไม่จำเป็นที่ทุกคนจะต้องถ่ายทุกวันเหมือนกันหมด นอกจากนี้การถ่ายอุจจาระยังขึ้นอยู่กับลักษณะของอาหารการกิน ปริมาณน้ำที่ดื่ม และการออกกำลังกายอีกด้วย

อาหารที่มีเส้นใยไม่ถูกย่อยในทางเดินอาหาร จะเหลือเป็นกากอาหารและยังคงช่วยดูดซับน้ำในลำไส้ใหญ่ไว้ เป็นการช่วยเพิ่มปริมาณและเพิ่มความเหลวของอุจจาระได้ดีอีกด้วย

ถ้าดื่มมากๆ (มากกว่า 2 ลิตรต่อวัน) ช่วยให้อุจจาระอุ้มน้ำ พองตัว เหลว ไม่แข็ง และถ่ายได้ง่าย

ส่วนเรื่องการออกกำลังกายนั้น การเคลื่อนไหวเบาๆ ตอนเช้า เช่น การเดิน ก็ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่ให้ขับถ่ายอุจจาระออกมาได้ง่ายอีกทางหนึ่งด้วย

การใช้ยาระบายบางชนิดเป็นประจำ อาจทำให้เกิดการดื้อยา และต้องเพิ่มขนาดยามากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ร่างกายเคยชินไม่ยอมถ่ายอุจจาระด้วยตนเอง และไม่ควรยึดถือความเชื่อที่ว่า “ทุกคนควรถ่ายอุจจาระทุกวัน

from sanook.com