วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

อย่าง ที่รู้ ๆ กันอยู่ว่า... น้ำใบบัวบก มีประโยชน์มากมายกับร่างกายเรา มีวิตามินเอสูงมาก ช่วยบำรุงสายตา และมีแคลเซียมสูง มีวิตามินบี 1 สูงกว่าผักหลาย ๆ ชนิด ช่วยแก้ช้ำใน ทำให้หายฟกช้ำได้ดี ลดอาการปวดศรีษะข้างเดียว บำรุงสมอง บำรุงหัวใจ แก้อ่อนเพลียเมื่อยล้า แก้ความดันโลหิตสูง

นอกจากนี้ ยังมีฤทธิ์ทำลายเซลล์มะเร็ง ลดการอักเสบและรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยในการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เลือดแข็งตัวเร็ว และช่วยขับปัสสาวะ (ว้าว... ประโยชน์เยอะจริง ๆ เลยนะคะ)

แต่... ใครจะรู้บ้างว่า น้ำใบบัวบก ยังสามารถลดริ้วรอยบนใบหน้าของสาว ๆ ได้ดีอีกด้วย วันนี้เราจะพาไปดูวิธีทำง่าย ๆ กัน...

นำใบบัวบกที่เตรียมไว้มาล้างน้ำให้ สะอาด แล้วนำมาปั่นให้ละเอียด จากนั้นคั้นเอาแต่น้ำของมัน พอได้น้ำใบบัวบกสด ๆ มาแล้ว ใช้สำลีชุบน้ำใบบัวบกมาทาให้ทั่วใบหน้า ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด อย่างไรก็ตาม คุณสาว ๆ สามารถทำสูตรนี้ใช้ได้ทุกวัน หรือตามสะดวก จะช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าของคุณให้จางลงได้ค่ะ

เป็นไง... วิธีทำนั้นง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะคะ ว่าแล้วเราลองไปทำกันเลยดีกว่า...

from kapook.com

วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ทำไมผู้หญิงถึงบ่อน้ำตาตื้นเสียจริง

เรื่องขี้แงต้องยกให้ผู้หญิงเขาล่ะ เพราะไม่ว่าจะดีใจ เสียใจ เศร้าใจ ทุกข์ใจ กังวลใจ ผู้หญิงสามารถหลั่งน้ำตาได้ตลอดเวลา

ผลโพลล์จาก The Baby Website ออกมาบอกว่า สาว ๆ เมืองผู้ดีวัย 19 ปีขึ้นไปมักจะบ่อน้ำตาตื่นถึงสัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง 14 นาที และยิ่งโตก็ยิ่งร้องไห้มากขึ้น เพราะปัญหาในชีวิตมีมากขึ้น

อย่างวัยทีนก็มีกจะหลั่งน้ำตาเรื่องอกหัก วัยทำงานก็เรื่องหน้าที่การงาน วัยครองคู่ก็เรื่องคู่ครอง วัยเกษียณก็เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ในทางกลับกันผู้ชายกลับเก็บความรู้สึกไว้ได้มากกว่า เพราะพื้นฐานการเลี้ยงดูมักคาดหวังให้ลูกผู้ชายต้องเข้มแข็งและอดทน

หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ออกมายืนยันอีกด้วยว่า ผู้ชายมีฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน ซึ่งทำให้กระบวนการผลิตน้ำตามีน้อยกว่าผู้หญิง ส่วนผู้หญิงมีฮอร์โมนโปรแล็กตินที่ช่วยผลิตน้ำนมและน้ำตา

ฉะนั้น เมื่อบวกกับอารมณ์อันอ่อนไหวของผู้หญิง กับเรื่องของฮอร์โมน พวกเราถึงต้องเสียน้ำตามากกว่าผู้ชายอยู่หลายขุมยังไงล่ะจ๊ะ

from kapook.com

วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ทานขนมหวานระวังสิว

คนที่ชอบทานหวานนั้น ทำให้ผิวเหี่ยวก่อนวัย มีสิวมาก ไขมันเพิ่ม และทำให้อ้วน ล้วนส่งผลเสียต่อผิว ทำให้เกิดโรคผิวหนังสารพัดชนิด

จากการวิจัย พบว่า การกินอาหารที่มีน้ำตาลสูง กระตุ้นให้สิวเห่อ อาหารที่มีน้ำตาลสูงทำให้มีอินซูลินในเลือดสูงขึ้น ซึ่ง ภาวะนี้นำไปสู่การมี insulin-like growth factor -1 (IGF-1) มาก ขึ้น IGF-1 ทำให้ผิวหนังแบ่งตัวเร็วและหนาตัว จึงทำให้เกิดก้อนไขมันอุดตันในรูขุมขน และเกิดสิวตามมา นอกจากนั้น IGF-1 และอินซูลิน ยังกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนเพศชาย คือ แอนโดรเจน ที่ทราบกันดีว่าเป็นตัวเพิ่มการผลิตไขมัน ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว

ดังนั้น ควรทานหวานให้น้อยลง เพื่อสุขภาพและความงามที่ดีของตัวคุณเอง

from kapook.com

วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ซีรั่มช่วยแก้ปัญหาบนผิวหน้าของคุณได้

สาว ๆ หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องใช้ซีรั่ม ในเมื่อเราก็มีมอยส์เจอไรเซอร์แบบที่เป็นครีมหรือโลชั่นอยู่แล้ว

ซีรั่มก็เหมือนวิตามินเสริมนั่นแหละ เวลาที่ผิวหน้าเรามีปัญหาหรือต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การทามอยส์เจอไรเซอร์ตามปกติเพียงอย่างเดียวก็อาจเอาไม่อยู่ เราจึงต้องใช้ซีรั่มเสริมเข้าไปแก้ปัญหาในสิ่งที่เราเป็นกังวล

วิธีการใช้ก็แค่ทาลงบนผิวหน้าสะอาด ๆ ก่อนทามอยส์เจอไรเซอร์ โดยเลือกคุณสมบัติของซีรั่มตามความต้องการของคุณ อย่างเช่น ถ้าคุณผิวแห้งก็เลือกใช้แบบที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องริ้วรอย ก็มองหาแบบที่จะช่วยลดเลือนริ้วรอยให้คุณได้

แต่ถ้าคุณมีปัญหาริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา ก็ควรเลือกซีรั่มที่ทำขึ้นมาสำหรับผิวรอบดวงตาโดยเฉพาะ เพราะเป็นบริเวณที่ผิวบอบบาง และเกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย

from kapook.com

วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เคล็ดลับสู่การมีผิวสว่างใสในชั่วข้ามคืน

สาว ๆ หลาย ๆ คนคงจะเคยเป็นกังวลกับหน้าตาหมองคล้ำของตัวเองใช่มั้ยคะ โดยเฉพาะคืนก่อนวันนัดเดท หรือวันงานอะไรซักอย่างจะมาถึงเนี่ย เป็นต้องวิ่งโร่หาวิธีแต่งหน้าให้ดูสว่างใสกันจ้าละหวั่นเลยทีเดียว

แต่จริง ๆ แล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวลเลยค่ะสาว ๆ เพราะหากคุณรู้วิธีเผยผิวใหม่ในชั่วข้ามคืนแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลถึงเรื่องแต่งหน้าให้สว่างใสเลยแม้แต่น้อย อะ ๆ ๆ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่า ว่าวิธีการทำให้หน้าสว่างใสภายในข้ามคืนนั้นมีขั้นตอนยังไงกันบ้าง

ขั้นตอนที่ 1 ขัดผิว ก่อนอื่นให้คุณทำความสะอาดผิวด้วยโฟมล้างหน้าแล้ว ขัดผิวหน้าอย่างนุ่มนวลเพื่อให้ผิวได้ผลัดเซลล์ผิวใหม่ ซึ่งขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนที่ช่วยลดรอยหมองคล้ำบนใบหน้าของคุณได้ อ๊ะ ๆ แต่ต้องใช้สครับขัดผิวแบบอ่อนโยนเท่านั้นนะคะ

ขั้นตอนที่ 2 ทำความสะอาดใบหน้าด้วยไอน้ำ เพราะการอบไอน้ำใบหน้า เป็นวิธีการชะล้างทำความสะอาดใบหน้าที่ดีและเห็นผลได้เร็วที่สุด เพราะไอน้ำจะเข้าไปทำความสะอาดถึงก้นบึ้งของรูขุมขนเลยทีเดียว ดังนั้น นี่จึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการเตรียมใบหน้าให้สว่างใส ที่คุณสามารถทำได้ด้วยการนำน้ำเดือดมาวาง แล้วยื่นหน้าลงไปอังจนหมดไอน้ำนั่นแหละค่ะ เอาล่ะ.. เมื่อคุณทำความสะอาดใบหน้าจนหมดจดแล้วก็ตามไปดูขั้นตอนต่อไปกันเลย

ขั้นตอนที่ 3 พอกหน้า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการพอกหน้า คือ หลังจากคุณอบไอน้ำใบหน้าแล้ว เพราะเป็นช่วงที่รูขุมขนคุณเปิด ให้มาส์กพอกหน้าซึมซับเข้าไปบำรุงผิวภายในง่ายกว่าช่วงเวลาอื่น แต่หลังจากพอกหน้าแล้ว อย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดอีกครั้งด้วยนะคะ

ขั้นตอนที่ 4 ใช้วิตามิน C หรือ AHA สูตรอ่อน ๆ ทาบาง ๆ บนใบหน้า แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน หากไม่มีวิตามิน C บริสุทธิ์ คุณอาจใช้ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามิน C ก็ได้ค่ะ

ขั้นตอนที่ 5 หลังจากตื่นนอนแล้ว ให้คุณล้างหน้าให้สะอาด แล้วทาครีมบำรุงผิวตามปกติ แล้วตามด้วยครีมกันแดดเพื่อป้องกันผิวที่เพิ่งจะผลัดเซลล์ไปใหม่ ๆ

เพียงเท่านี้ คุณก็จะมีใบหน้าที่สว่างใส และพร้อมที่จะเผยผิวสดใสในวันนัดเดท หรือวันงานต่าง ๆ แล้วล่ะค่ะ รับรองได้ว่า นอกจากจะให้ผลทันตาเห็นแล้ว คุณยังจะรู้สึกได้ถึงความสะอาดของผิวหน้า อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลยล่ะค่ะ


from kapook.com

วันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เคล็ดลับ ในการเลือกอาหารไขมันต่ำ

สาว ๆ ที่อยากมีหุ่นสวยเพรียว ต้องระวังการกินเป็นพิเศษ วันนี้เราจึงมีทิปส์ง่าย ๆ ในการเลือกอาหารรับประทานมาบอกกันด้วยค่ะ

อาหารเช้า

มีผลไม้ หรือน้ำผลไม้ 100% 1/2 - 1 แก้ว

ข้าว แป้ง ขนมปัง เลือกชนิดที่ไม่ขัดสี หรือขัดสีน้อยจะได้เพิ่มใยอาหาร (วันละ 6-8 ทัพพี)

ใช้น้ำมันให้น้อยที่สุด เพราะต้องสงวนไว้ใช้ในมื้อเย็น (เพราะกินกับข้าวหลายอย่าง)

เพิ่มผักในมื้อเช้า 1 ทัพพี


อาหารว่าง

เลือกกินผลไม้ แทนขนมอบประเภทเบเกอรี่

เครื่องดื่มร้อนหรือเย็นไม่ใส่ครีมผง ถ้าใช้นมขอเป็นนมไขมันต่ำ


อาหารกลาง วัน

เลือกอาหารจานด่วนแบบไขมันน้อย ถ้าเป็นของทอดกรอบ ผัด จะมีน้ำมันมาก

อาหารจานด่วนที่มีหลายขั้นตอน เช่น ข้าวผัดใส่ไข่ ก๋วยเตี๋ยวผัด กระเพาะปลา แต่ละขั้นตอนจะเพิ่มน้ำมันทุกครั้งจึงควรเลี่ยง

อาหารประเภทก๋วยเตี๋ยวน้ำ ไม่ต้องใส่น้ำมันเจียว แต่ขอผักเพิ่ม ขอหมูชิ้นไม่ติดมันแทน หมูสับปนมันและไม่ใส่เครื่องใน

ขนมหวานถ้าอยากรับประทาน ไม่ราดหน้าด้วยกะทิ หรือจะเปลี่ยนเป็นผลไม้หลายรส ก็ดีกว่าเป็นไหน ๆ

ดื่มน้ำสะอาดแทนเครื่องดื่มเย็นประเภทยกล้อ (กาแฟร้อนใส่นมเยอะ ๆ)

อาหารเย็น

ไม่ซื้อกับข้าวสำเร็จรูปที่มีกะทิ ผัดเผ็ดแบบทอดกรอบ น้ำมันลอยหน้า แกงจืดที่ซื้อมาควรอุ่นให้ร้อน ๆ ก่อนรับประทาน ถ้ามีน้ำมันกระเทียมเจียวลอยหน้าก็จะได้ตักออกง่าย

ถ้าชอบผัดผักให้ปรุงแบบไทยสไตล์ ฝรั่ง คือใช้น้ำมันแต่น้อย

เลือกอาหารที่ปรุงแบบ อบ ต้ม ย่าง นึ่ง ยำ ลาบ ตุ๋น ดีกว่าทอดหรือผัด

เพิ่มผลไม้หวานน้อย ๆ เสริมเข้าไป

อาหาร เพื่อสุขภาพ

ข้าว – แป้ง : เลือก ที่ผ่านการขัดสีน้อย

ผัก – ผลไม้ : เลือกรับประทานสดหรือเป็นกระป๋อง แต่ไม่ใช่ทุเรียน อโวคาโด ลำไย มะพร้าวกะทิ

เนื้อสัตว์ : เลือกปลา เต้าหู้ ถั่วเมล็ดแห้ง แทนเนื้อสัตว์ที่มีมัน หนัง หรืออาหารแปรรูป

นมและผลิตภัณฑ์จากนม : เลือกนมไขมันต่ำ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของครีม

ไขมัน : เลือกน้ำมันพืชแทนไขมันจากสัตว์ กะทิ มะพร้าว

ใยอาหาร : เกี่ยวข้องอะไรด้วย

ใยอาหารมี 2 ประเภท คือ ประเภทที่ 1 จะช่วยกวาดล้างลำไส้ให้สะอาด ป้องกันมะเร็งลำไส้ ได้แก่ พวกก้านผักต่าง ๆ ส่วนอีกประเภทหนึ่งจะช่วยโอบอุ้มโคเลสเตอรอลในลำไส้ออกมากับอุจจาระ พวกนี้มีในผลไม้ ถั่วเมล็ดแห้ง ผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย ได้แก่ แอปเปิล มะกอก ฝรั่ง สตรอเบอร์รี่ พุทรา ลูกหม่อน ตะขบ ตะลิงปลิง เมล็ดฝักบัว สาลี่ เป็นต้น


อาหารเพื่อสุขภาพ

เมื่อไปกินอาหารนอกบ้าน

ร้านอาหารในบ้านเรามาจากทุกทวีป ไม่ว่าจะชิมรสชาติของชาติใดล้วนแล้วแต่อร่อยถูกปากคนไทย เราจึงสมบูรณ์เกินกว่ามาตรฐานชาย-หญิงกันแล้ว เมื่อไปกินอาหารนอกบ้านควรพินิจดังนี้

อาหารฟาสต์ฟู้ด : เลือกที่ไม่ใส่ชีส ไส้กรอก ของทอด ไข่ มายองเนส เลือกเนื้อสัตว์ที่เป็นเนื้ออก รับประทานกับสลัดผักน้ำใส ถ้าเป็นน้ำข้นราดน้ำน้อย ๆ ก็พอไหว ส่วนเครื่องดื่มต้องไม่ใส่ครีม นม หรือประเภทมิลค์เช็คก็ไม่ได้นะคะ ไอศกรีมเห็นทีต้องงด แต่ถ้าอดไม่ไหวขอแค่คำสองคำก็น่าจะหายอยากได้ ถ้าเลือกกินอาหารแบบไทย-อีสานได้จะแจ๋วมาก

อาหารอิตาเลียน : คงต้องเลี่ยงพวกชีส เนย หรือซอสที่ผสมครีม เลือกเมนูที่ใช้น้ำมันมะกอกดีกว่า

อาหารจีน : ส่วนใหญ่ใช้น้ำมันมากและใช้เนื้อสัตว์มีมัน ผัดผักก็มีน้ำมันมากพอดู ควรคีบอาหารส่วนบน ๆ น้ำมันน้อย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์สับ เพราะมักจะมีมันปนมาก ยิ่งของทอดด้วยแล้วคงต้องงดหรือเพียงแค่ชิมก็พอ ส่วนขนมหวานถ้าเป็นลอยแก้วสบายมากรับประทานได้ แต่ระวังน้ำหนักขึ้นด้วย

อาหาร ญี่ปุ่น : น่าจะดีกว่าเพราะมีไขมันต่ำที่สุด แต่บางอย่างอาจมีเบคอน หรือมายองเนสผสมอยู่ด้วย คงต้องเลือกเมนูก่อนสั่ง แต่ส่วนใหญ่ก็โอเค

การช่วยให้สุขภาพปลอดไขมันส่วนเกินจากอาหาร จะสำเร็จได้คงต้องควบคุมพฤติกรรมการกิน ซึ่งอาจยากสักหน่อยในช่วงแรก ๆ แต่ถ้าทำเป็นประจำก็จะกลายเป็นความเคยชิน เมนูอาหารประจำวันของเรามีมากมายหลากหลาย เลี่ยงอย่างหนึ่งมาเลือกอีกอย่างหนึ่งจึงไม่ใช่เรื่องยาก หรือลดปริมาณการกินอาหารที่มีไขมันลงบ้าง ก็ยังคงให้คุณอร่อยกับอาหารได้ เหมือนเดิม

คุณต้องตั้ง มั่นใจโดยบอกตัวเอง และคนที่คุณรักว่าไขมันในเลือดสูงสามารถป้องกันได้ด้วยตัวคุณเอง เพียงแค่ลดการกินน้ำตาล ไขมัน เลือกชนิดและส่วนของเนื้อสัตว์ให้ถูกต้อง เพิ่มผัก ผลไม้ ให้ได้ใยอาหาร ควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกายบ้าง และทำจิตใจให้ผ่องใส นั่นแหละชีวิตที่มีคุณภาพและปลอดไขมันที่เป็นต้นเหตุของโรคมากมาย

from kapook.com

วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เติมสีสัน...พรางรูปหน้าด้วยบลัชออน

การเติมสีสันบนพวงแก้มช่วยสร้างความสดใสให้ใบหน้าในชั่วพริบตา อีกทั้งยังสามารถช่วยแรเงาเพื่อพรางรูปหน้าให้ดูสมดุลขึ้นอีกด้วย แต่การใช้บลัชออนมักเป็นสิ่งที่ผู้หญิงมักทำผิดพลาดมากที่สุดในการแต่งหน้า เรามาช่วยขจัดปัดเป่าปัญหาให้คุณแล้ว

แก้มสวยเปล่งปลั่งอมชมพูเป็นที่ปรารถนาของหญิงสาวทุกคน และโชคดีที่สีแก้มสวย ๆ เช่นนี้สามารถเนรมิตได้ง่าย ๆ ด้วยเครื่องสำอางชิ้นโปรด

บลัชออนที่นอกจากจะเพิ่มสีสันให้แก่ใบหน้าแล้ว ยังสามารถช่วยสร้างแสงเงาเพื่อพรางข้อบกพร่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของใบหน้า และเพิ่มมิติให้ใบหน้าดูดีขึ้นได้ด้วย แต่บลัชออนไม่เหมือนกับเครื่องสำอางที่ใช้ตกแต่งดวงตาหรือริมฝีปาก เพราะมันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อโชว์สีสัน บลัชออนไม่ควรจะโดด เด่นออกมาแข่งกับสีตาและปากของคุณ แต่ควรจะเป็นสีระเรื่ออยู่ในผิวที่ช่วยเสริมให้การแต่งหน้าโดยรวมดูสวยงาม ขึ้น

ฉะนั้นเพื่อให้แน่ใจว่าบลัชออนของคุณจะไม่เด่นจนออกนอกหน้า คุณจึงควรทาบลัชออนก่อนทาสีตาและปากเสมอ ต่อไปนี้ คือทุกอย่างที่คุณต้องรู้ในเรื่องของบลัชออน เพื่อจะได้ไม่ตกหลุมพรางข้อผิดพลาดง่าย ๆ ของการแต่งหน้าอีกต่อไป

บลัชออนมี กี่แบบ

บลัชออนแบบฝุ่น เป็นบลัชออนชนิดที่นิยมกันมากที่สุด ใช้ทาลงบนแก้มหลังการทาแป้งฝุ่น มันจะติดอยู่บนชั้นบนสุดของผิว และทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งสดใส บลัชออนแบบฝุ่น ยังนิยมใช้เพื่อสร้างแสงเงาในการพราง ข้อบกพร่องของรูปหน้า โดยมักจะใช้บลัชออนหลาย ๆ สีผสมกัน เช่น ใช้สีเข้มที่ส่วนบุ๋มของแก้ม และสีที่อ่อนกว่าบนจุดสูงสุดของแก้ม แต่งต้องระวังอย่าให้สีเข้มจนเกินไปเราต้องการสีของบลัชออนเพียงเล็กน้อย เท่านั้น

บลัชออนแบบครีม เป็นแบบที่มีเม็ดสีเข้มขันที่สุด จึงควรใช้แต่น้อย โดยบลัชออนแบบครีมใช้ทาหลังจากรองพื้น ก่อนทาแป้งฝุ่น นอกจากนี้ ยังมีบลัชออนแบบครีมที่มีส่วนผสมช่วยบำรุงผิวหน้า หรือแบบที่ผสมประกายแวววาวเล็กน้อย สำหรับสร้างสีสันยามราตรี และบลัชออนแบบครีมบางยี่ห้อยังสามารถใช้ทาปากและเปลือกตาได้ด้วยในคราวเดียว กัน

บลัชออนแบบน้ำและแบบเจล บลัชออนแบบนี้ จะให้สีสันจาง ๆ ที่ดูเป็นธรรมชาติมาก ใช้ทาหลังจากรองพื้น หรือทาโดยตรงลงบนผิวหลังการทามอยสเจอไรเซอร์ จะช่วยให้แก้มดูเปล่งปลั่งอมเลือดฝาดอย่างเป็นธรรมชาติ

ทาบลัชแบบมีเทคนิค

บลัชออนเป็นเครื่องสำอางที่ผู้หญิงมักใช้มากเกินไปเสมอ ฉะนั้น หัวใจสำคัญก็คือการทาบลัชออนแต่เพียงน้อยๆ จำไว้ว่าคุณสามารถเติมสีเพิ่มได้เสมอ ถ้าคุณเริ่มเห็นสีบลัชออนอย่างชัดเจนให้รีบหยุด เพราะแสดงว่าทามากไปแล้ว นอกจากนี้ จงให้แน่ใจว่าคุณแต่งหน้าในที่ซึ่งมีแสงเพียงพอ อันจะทำให้คุณเห็นสีที่ทาได้อย่างชัดเจน แต่เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ทามากจนเกินไปเทคนิคก็คืออย่าทาบลัชออนเกินสามสี่ ครั้ง

บริเวณสำ หรับทาบลัชออนก็คือ ส่วนของใบหน้าที่อยู่ระหว่างแนวเส้นขนานของดวงตากับใต้จมูก ขณะยืนอยู่หน้ากระจกให้ยิ้มกับตัวเอง และค่อย ๆ แต้มบลัชออนลงบนส่วนแก้มที่โหนกนูนออกมามากที่สุด แล้วเกลี่ยออกไปยังขมับให้เป็นเส้นโค้งเล็กน้อย

สำหรับการทาบลัชออนแบบฝุ่น ให้ใช้แปรงที่มีขนาดใหญ่พอเหมาะกับพวงแก้มเพื่อให้ได้สีที่สม่ำเสมอ และเคาะบลัชออนส่วนเกิน ออกจากแปรงทุกครั้งก่อนทาลงบนหน้า เพื่อสีจะได้ไม่มากเกินไป ส่วนบลัชออนแบบครีมหรือเจล ใช้ปลายนิ้วแต้มสีลงไปทีละน้อยและเกลี่ยให้กลมกลืนที่สุด ช่างแต่งหน้ามืออาชีพบางคนใช้ฟองน้ำหรือแปรงแบบเดียวกับแปรงทางรองพื้นเพื่อ ช่วยในการเกลี่ยสี ถ้าได้ลองดูแล้วคุณจะพบว่ามันช่วยให้ทาบลัชออนได้ง่ายขึ้นอย่างมาก

ปัดบลัชพราง รูปหน้า

ไม่ว่าคุณจะมีรูปหน้าแบบไหน แสงเงาจากการทาบลัชสามารถช่วยพรางรูปหน้าให้ดูสมส่วนขึ้นได้

หน้ารูปไข่ ปกติแล้วรูปหน้าแบบนี้ไม่ต้องการการแรเงาเนื่องจากสมดุลอยู่แล้ว เพื่อให้บลัชออน ดูเป็นธรรมชาติ ให้ทาบลัชที่กึ่งกาลางพวงแก้มเพื่อให้ดูเปล่งปลั่งแบบเป็นธรรมชาติ สำหรับกลางคืน เติมบลัชเล็กน้อยที่สันจมูกเพื่อเพิ่มสีสัน

หน้าสี่เหลี่ยม ทำให้แก้มเหลี่ยมๆ ดูนุ่มนวลขึ้นด้วยการใช้บลัชสีสดใส ทาลงบนกึ่งกลางแก้มแล้ว เกลี่ยขึ้นไปทาขมับ ถ้าอยากทำให้ขากรรไกรเหลี่ยมๆ ดูกลมมนขึ้น ทาบลัชเล็กน้อยจากคางไปจนถึงใต้ใบหู

หน้ากลม เริ่มทาจากบริเวณเหนือจุดสูงสุดของโหนกแก้มเล็กน้อย แล้วเกลี่ยไปด้านหน้า แต่อย่าให้สีเข้าไปอยู่ใกล้จมูกจนเกินไปนัก ไม่งั้นสีจะยิ่งเน้นหน้าให้ดูกลมขึ้น จากนั้น ใช้สีเข้มปัดที่ใต้โหนกแก้มไปหาแนวขากรรไกรและเกลี่ยทั้งสองสีให้กลมกลืนกัน

หน้ายาว เพื่อทำให้หน้าดูกว้างขึ้น ทาบลัชจากกึ่งกลางแก้มออกไปหาใบหู จากนั้น ทาบลัชเล็กน้อยที่หน้าผากและแนวคาง

from kapook.com